ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ (26 ก.ย.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าชุดใหม่กับผลิตภัณฑ์ยา เฟอร์นิเจอร์ และรถบรรทุกขนาดใหญ่
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,312.90 จุด ลดลง 171.78 จุด หรือ -0.65%
ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยล่าสุด FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 83.4% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 92% ในวันพุธ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 3 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 3.8% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.0% และ 3.3% ตามลำดับ เนื่องจากความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนในภาคเอกชน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 235,000 ราย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียล (Truth Social) ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ผลิตภัณฑ์ยาที่มีแบรนด์หรือจดสิทธิบัตรใด ๆ จะต้องเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% ยกเว้นบริษัทที่สร้างโรงงานผลิตยาในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ตู้ครัว ตู้อ่างล้างหน้า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจะถูกเก็บภาษีนำเข้า 50% ขณะที่เฟอร์นิเจอร์หุ้มเบาะจะถูกเก็บภาษี 30% พร้อมระบุว่ารถบรรทุกขนาดใหญ่จะถูกเก็บภาษี 25%