ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก หลังมีรายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายดังกล่าววานนี้ และทำให้สหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
ณ เวลา 22.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 46,461.09 จุด บวก 63.20 จุด หรือ 0.14%
ทั้งนี้ การลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งใหม่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ เวลา 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
ในการลงมติเมื่อวานนี้ วุฒิสภาอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนเสียงเพียง 55 เสียง ขณะที่คัดค้าน 45 เสียง โดยพรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนมากถึง 60 เสียงตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ร่างงบประมาณดังกล่าวตกไป และทำให้สหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ในวันนี้
สหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การชัตดาวน์จะส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขสำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการชัตดาวน์ในรอบนี้จะกินเวลานานเพียงใด หลังจากที่ปธน.ทรัมป์เคยสร้างสถิติชัตดาวน์นานถึง 35 วันในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งเป็นระยะเวลาชัตดาวน์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งจบลงด้วยการที่สภาคองเกรสยอมผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยแลกกับการที่งบประมาณฉบับดังกล่าวไม่มีการตั้งวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์เรียกร้อง
พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นสาเหตุของการชัตดาวน์ในครั้งนี้ โดยหน้าเว็บไซต์ของทำเนียบขาวขึ้นข้อความว่า "Democrats Have Shutdown the Government" หรือ "พรรคเดโมแครตได้ทำการชัตดาวน์รัฐบาล" พร้อมกับมีนาฬิกานับเวลาเริ่มต้นตั้งแต่การชัตดาวน์ ขณะที่นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อย สังกัดพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ได้โพสต์ตอบโต้บน X ว่า "นี่คือการชัตดาวน์ของโดนัลด์ ทรัมป์ เขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้" นอกจากนี้ นายชูเมอร์ยังกล่าวว่า พรรครีพับลิกันกำลังโกหกเกี่ยวกับจุดยืนของพรรคเดโมแครต
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกัน ซึ่งครองทำเนียบขาวและมีเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อยทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อคงการจัดสรรงบประมาณในระดับปัจจุบันไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยพวกเขาจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตอย่างน้อย 7 เสียงในวุฒิสภาเพื่อผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว
อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตยื่นข้อเรียกร้องหลายประการ รวมถึงการให้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวต้องมีการขยายสิทธิประโยชน์ด้านภาษี Obamacare ที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะหมดอายุในช่วงสิ้นปีนี้ โดยสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะช่วยลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับผู้เอาประกันจำนวนมากที่ลงทะเบียนในโครงการประกันสุขภาพตามกฎหมาย Affordable Care Act แต่พรรครีพับลิกันปฏิเสธ โดยกล่าวหาว่าเดโมแครตกำลัง "จับรัฐบาลเป็นตัวประกัน" เนื่องจากไม่ยอมให้มีการผ่านงบประมาณ เว้นแต่จะได้ตามข้อเรียกร้องด้านสิทธิประโยชน์ดังกล่าว
แกนนำรีพับลิกันยืนยันว่า ร่างกฎหมายต่ออายุการจัดสรรงบประมาณแบบ "สะอาด" ของพวกเขา โดยไม่มีการพ่วงสิทธิประโยชน์ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกัน ไม่ใช่เรื่องการเมือง และการเจรจาด้านนโยบายสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องปิดหน่วยงานรัฐบาล