ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก เก็งเฟดลดดอกเบี้ย หลังสหรัฐเจอชัตดาวน์,จ้างงานซบ

ข่าวต่างประเทศ Friday October 3, 2025 19:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังสหรัฐเผชิญภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอในภาคเอกชนสหรัฐ

ณ เวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 78 จุด หรือ 0.17% สู่ระดับ 46,884 จุด

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 32,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการทรุดตัวของการจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2566 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 4,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคบริการมีการจ้างงานลดลง 28,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค.เป็นลดลง 3,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นถึง 54,000 ตำแหน่ง

วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งใหม่ในวันนี้ หลังจากที่พักการประชุมวานนี้ เนื่องในวัน Yom Kippur หรือ "วันแห่งการชดใช้บาป" (Day of Atonement) ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของศาสนายิว

ในการลงมติ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 ก.ย.และ 1 ต.ค. ที่ประชุมวุฒิสภาให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนเสียงเพียง 55 เสียง ขณะที่คัดค้าน 45 เสียง โดยพรรครีพับลิกันยังคงไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนมากถึง 60 เสียงตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ร่างงบประมาณดังกล่าวตกไป และทำให้สหรัฐยังคงอยู่ในภาวะชัตดาวน์

สำหรับการลงมติในวันนี้ หลายฝ่ายยังคงคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน หลังจากที่แต่ละฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการชัตดาวน์

การชัตดาวน์ส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขสำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.

ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการชัตดาวน์ในรอบนี้จะกินเวลานานเพียงใด หลังจากที่ปธน.ทรัมป์เคยสร้างสถิติชัตดาวน์นานถึง 35 วันในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งเป็นระยะเวลาชัตดาวน์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งจบลงด้วยการที่สภาคองเกรสยอมผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยแลกกับการที่งบประมาณฉบับดังกล่าวไม่มีการตั้งวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์เรียกร้อง

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 08.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.30 น.ตามเวลาไทย

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากภาวะชัตดาวน์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ