ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย, Nasdaq ทำนิวไฮ รับแรงซื้อหุ้นเทค

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 9, 2025 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ (8 ต.ค.) แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่า กรรมการเฟดยังคงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ก็มีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,601.78 จุด ลดลง 1.20 จุด หรือ -0.003%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,753.72 จุด เพิ่มขึ้น 39.13 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,043.38 จุด เพิ่มขึ้น 255.02 จุด หรือ +1.12%

ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวการทำข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างบริษัท AI รายใหญ่หลายรายในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุด ไอบีเอ็ม (IBM) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และ แอนโทรปิก (Anthropic) สตาร์ตอัปด้าน AI ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อเร่งพัฒนา AI ที่พร้อมใช้งานในระดับองค์กร โดยจะผสานรวม Claude ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Anthropic เข้ากับเครื่องมือ AI IDE (Integrated Development Environment) ตัวใหม่ของ IBM ซึ่งได้รับการออกแบบมาพร้อมความสามารถในการสร้างงานอัตโนมัติขั้นสูงสำหรับวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับองค์กร รวมถึงการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย

ข่าวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงกับโอเพนเอไอ (OpenAI) เจ้าของ ChatGPT ซึ่งเป็นแชตบอตระดับโลก โดย AMD จะจัดหาชิป AI ให้กับ OpenAI ภายใต้ข้อตกลงที่จะสามารถสร้างรายได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี และจะเปิดทางให้ OpenAI ซื้อหุ้นในบริษัท AMD ได้สูงถึง 10%

การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 8 ส่งผลให้ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า ตลาดจนรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟด

ทั้งนี้ รายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย.ของเฟดระบุว่า การที่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นนั้น ถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กรรมการเฟดก็ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูง นอกจากนี้ แม้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ แต่กรรมการเฟดไม่ได้ระบุถึงช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

นักวิเคราะห์จากบริษัท Horizon Investments แสดงความเห็นว่า รายงานการประชุมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเฟดอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากหากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจจากภาครัฐ เนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลยังคงถูกชัตดาวน์

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักมากถึง 92.5% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.52% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.85% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.57% และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง 0.52%

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Dell พุ่งขึ้น 9.1% หลังได้รับการปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นจากบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่ง ขณะที่หุ้น AMD ทะยานขึ้น 11.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และพุ่งขึ้นไปแล้วกว่า 43% ในสัปดาห์นี้ ขานรับการทำข้อตกลงทางธุรกิจกับ OpenAI

หุ้น Freeport-McMoRan พุ่งขึ้น 5.3% หลังจากซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนในหุ้น Freeport-McMoRan สู่ระดับ "Buy" จาก "Neutral"

ส่วนหุ้นบริษัทเหมืองทองคำทะยานขึ้นตามทิศทางราคาทองคำ โดยหุ้น Newmont และหุ้น Gold Fields พุ่งขึ้น 1.7% และ 3.7% ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ