ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (15 ต.ค.) หลังจากบริษัท LVMH ของฝรั่งเศสจุดกระแสการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา และช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและภาษีศุลกากรที่อาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 567.77 จุด เพิ่มขึ้น 3.23 จุด หรือ +0.57%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,077.00 จุด เพิ่มขึ้น 157.38 จุด หรือ +1.99%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,181.37 จุด ลดลง 55.57 จุด หรือ -0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,424.75 จุด ลดลง 28.02 จุด หรือ -0.30%
หุ้น LVMH พุ่งขึ้น 12.2% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากบริษัทเจ้าของแบรนด์ Louis Vuitton และ Dior รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดจากอุปสงค์ในจีนที่ฟื้นตัว
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ผลประกอบการครั้งนี้เป็นสัญญาณบวกสำหรับทั้งกลุ่ม และอาจบ่งชี้ว่าช่วงที่มุมมองในแง่ร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
หุ้นของบริษัทสินค้าหรูรายอื่น ๆ เช่น Hermes, Kering, Richemont และ Moncler ต่างปรับตัวขึ้นระหว่าง 4.7% ถึง 7.8% โดยมีการประเมินว่าการปรับตัวขึ้นครั้งนี้อาจเพิ่มมูลค่าตลาดของบริษัท 10 อันดับแรกในดัชนี STOXX Europe Luxury ราว 8 หมื่นล้านดอลลาร์
ในบรรดาบริษัทที่รายงานผลประกอบการออกมานั้น หุ้น ASML พุ่งขึ้น 3.1% หลังผู้จำหน่ายอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศยอดสั่งซื้อในไตรมาส 3 และประมาณการไตรมาส 4 ที่ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด
หุ้น TotalEnergies พุ่งขึ้น 3.7% หลังบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของฝรั่งเศสคาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการผลิตต้นน้ำที่มากขึ้นและค่าการกลั่นน้ำมันดิบที่ดีขึ้น แม้ราคาน้ำมันลดลงก็ตาม
ประมาณการผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทในดัชนี STOXX ปรับตัวดีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.5% จากข้อมูลของ LSEG IBES เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะลดลง 0.6% แม้ตัวเลขนี้ยังถือเป็นการชะลอตัวอย่างมากจากการเติบโต 7.8% ในไตรมาส 3 ปี 2567
บรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกยังได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร และถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เพิ่มความคาดหวังว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นภายในปีนี้
หุ้น Stellantis ปิดพุ่งขึ้น 3.2% หลังประกาศแผนลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนและนักวิเคราะห์มองว่าจะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้รับมือกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้น Aurubis ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ของเยอรมนี ร่วงลง 6.5% โดยเทรดเดอร์ระบุว่า สาเหตุเกิดจากการที่บริษัท Salzgitter ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ออกพันธบัตรมูลค่า 500 ล้านยูโรที่สามารถแปลงเป็นหุ้นของ Aurubis ได้