ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ที่ออกมาอย่างหลากหลาย และยังคงระมัดระวังก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องในด้านการคลัง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,436.09 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด หรือ +0.12%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีระบุว่า เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรขยายตัว 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งถือเป็นแรงหนุนเล็กน้อยให้กับราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนการเสนอร่างงบประมาณในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค. ยังไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษี
เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญปัญหาการเติบโตต่ำและอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นความท้าทายของธนาคารกลางอังกฤษที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4% เมื่อเดือนก่อน
ความสนใจของนักลงทุนในขณะนี้มุ่งไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.หรือ ธ.ค. หรือจะรอไปจนถึงต้นปี 2569
หุ้นกลุ่มประกันภัยเป็นกลุ่มที่ทำผลงานแย่ที่สุด โดยหุ้นของ Admiral Group ร่วงลง 2.4%
กลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการลดลง 1.1% หลังจาก Whitbread รายงานกำไรครึ่งปีลดลง 7% เนื่องจากยอดขายอาหารและเครื่องดื่มที่อ่อนตัวลง โดยบริษัทเจ้าของโรงแรม Premier Inn เป็นหุ้นที่ปรับลดลงมากที่สุดในดัชนี FTSE 100 โดยร่วงลงถึง 10.3%
หุ้น AstraZeneca ลดลง 0.7% หลัง Deutsche Bank ปรับลดคำแนะนำลงทุนจาก "ถือ" เป็น "ขาย"
หุ้น Travis Perkins ร่วงลง 3.1% หลังผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายนี้เตือนถึงแรงกดดันด้านอัตรากำไรและไม่ได้ให้แนวโน้มกำไรทั้งปี
บริษัทที่ปรึกษาด้านบำนาญ XPS Pensions Group รายงานรายได้ครึ่งปีที่สูงกว่าคาด แต่ราคาหุ้นกลับลดลง 2% หลังจากแรงซื้อในช่วงแรกหมดไป
หุ้น Croda International พุ่งขึ้น 8.5% กลายเป็นหุ้นที่ปรับขึ้นมากที่สุดในดัชนี FTSE 100 และช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์โดยรวมให้เพิ่มขึ้น 1.5% หลังบริษัทรายงานยอดขายที่สูงขึ้นและคงแนวโน้มกำไรประจำปีไว้ตามเดิม