ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (17 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้เสียของธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ รวมทั้งผลกระทบของสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,473.09 จุด ลดลง 415.42 จุด หรือ -1.60%, ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 47,827.31 จุด ลดลง 450.43 จุด หรือ -0.93% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,877.20 จุด ลดลง 39.03 จุด หรือ 1%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.78% ส่วนดัชนี KOSPI ขยับขึ้น 0.1%
หุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก และส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านสินเชื่อที่แฝงอยู่ในระบบการเงินของสหรัฐฯ ในขณะที่ธนาคารผู้ปล่อยกู้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง
หุ้นไซออนส์ บันคอร์ปอเรชัน (Zions Bancorporation) ร่วงลง 13% หลังจากธนาคารเปิดเผยตัวเลขการตัดบัญชีหนี้สูญมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ของเงินกู้ที่ปล่อยโดยแคลิฟอร์เนีย แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ (California Bank & Trust) ซึ่งเป็นธนาคารในเครือที่ตั้งอยู่ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะที่หุ้นเวสต์เทิร์น อัลลิอันซ์ บันคอร์ป (Western Alliance Bancorp) ดิ่งลงเกือบ 11% หลังจากธนาคารได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีฉ้อโกงกับบริษัทแคนเทอร์ กรุ๊ป (Cantor Group) ส่วนหุ้นเจฟเฟอรีส์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (Jefferies Financial Group Inc.) ร่วงลง 9% หลังจากเปิดเผยว่าได้ปล่อยเงินกู้ให้กับเฟิร์สต์ แบรนด์ส (First Brands) ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ประสบภาวะล้มละลาย