ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวในแดนบวก ส่งสัญญาณการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังดิ่งลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 19.22 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 42 จุด หรือ 0.09% สู่ระดับ 46,202 จุด
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้เสียของธนาคารระดับภูมิภาคในสหรัฐ
'เราไม่คิดว่าภาคธนาคารสหรัฐเกิดปัญหาสินเชื่อในเชิงระบบ สิ่งที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นกรณีเฉพาะธนาคารบางแห่ง เช่น First Brands และ TriColor ขณะที่คุณภาพสินเชื่อโดยรวมยังคงอยู่ในระดับดีกว่าที่คาดไว้' นายอดัม คริซาฟูลลี จากบริษัท Vital Knowledge ระบุในรายงาน
หุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐร่วงลงอย่างหนักวานนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านสินเชื่อในระบบการเงินสหรัฐ ขณะที่ภาคธนาคารเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ดัชนีหลักของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงมีแนวโฯ้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ แม้ตลาดดิ่งลงวานนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์บวก 1% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 พุ่งขึ้น 1.6% และ 1.2% ตามลำดับ
ตลาดยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังนายสตีเฟน มิแรน สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า ภาวะชะงักงันในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ทำให้เกิดความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้เฟดมีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งได้ย่างเข้าสู่วันที่ 17 ท่ามกลางความหวังริบหรี่ที่จะเห็นวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน