ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นเกือบ 3% ในวันนี้ (20 ต.ค.) โดยปรับตัวขึ้นกว่า 1,300 จุด หลังจากมีรายงานว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น และพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (JIP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็ก บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกัน ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ซานาเอะ ทาคาอิจิ ผู้นำพรรค LDP ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 48,970.40 จุด เพิ่มขึ้น 1,388.25 จุด หรือ +2.92%
ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวกต่อความชัดเจนทางการเมืองที่เกิดขึ้น ภายหลังมีแนวโน้มว่าทาคาอิจิจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการลงมติของรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้นหลังการลงนามข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรค LDP กับพรรค JIP ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้
การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าการตัดสินใจของพรรคโคเม (Komeito) ที่ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ทาคาอิจิ ซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากความกังวลที่คลี่คลายลงเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ซึ่งออกอากาศเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอีก 100% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เขาเคยขู่ไว้ว่าจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนพ.ย. นั้น เป็นสิ่ง "ที่ไม่ยั่งยืน"