ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดพุ่งทะลุ 3% ทำนิวไฮ รับข่าวจ่อตั้งรัฐบาลผสม ปูทาง "ทาคาอิจิ" นั่งนายกฯ

ข่าวต่างประเทศ Monday October 20, 2025 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นเกิน 3% ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (20 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น และพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (JIP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็ก บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกัน ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ซานาเอะ ทาคาอิจิ ผู้นำพรรค LDP ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างแน่นอน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 49,185.50 จุด เพิ่มขึ้น 1,603.35 จุด หรือ +3.37%

หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ได้แก่หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสารสนเทศและการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ยาง

ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวกต่อความชัดเจนทางการเมืองที่เกิดขึ้น ภายหลังมีแนวโน้มว่าทาคาอิจิจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการลงมติของรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้นหลังการลงนามข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรค LDP กับพรรค JIP ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้

การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าการตัดสินใจของพรรคโคเม (Komeito) ที่ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ทาคาอิจิ ซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้

ยูทากะ มิอุระ นักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคอาวุโสจากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮะ กล่าวว่า "ตลาดได้รับรู้และสะท้อนปัจจัยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยคุณทาคาอิจิไปแล้ว" พร้อมเสริมว่าอาจมีแรงซื้อเข้ามาอีกเมื่อเธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกัน บรรยากาศการลงทุนยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากความกังวลที่คลี่คลายลงเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ซึ่งออกอากาศเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอีก 100% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เขาเคยขู่ไว้ว่าจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนพ.ย. นั้น เป็นสิ่ง "ที่ไม่ยั่งยืน"

นอกจากนี้ การเจรจาออนไลน์เมื่อวันศุกร์ระหว่าง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กับ เหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งจัดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ยิ่งช่วยกระตุ้นความหวังในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ