ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นเกิน 3% ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (20 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น และพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (JIP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็ก บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกัน ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ซานาเอะ ทาคาอิจิ ผู้นำพรรค LDP ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างแน่นอน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 49,185.50 จุด เพิ่มขึ้น 1,603.35 จุด หรือ +3.37%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ได้แก่หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสารสนเทศและการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ยาง
ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวกต่อความชัดเจนทางการเมืองที่เกิดขึ้น ภายหลังมีแนวโน้มว่าทาคาอิจิจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการลงมติของรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้นหลังการลงนามข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรค LDP กับพรรค JIP ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้
การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าการตัดสินใจของพรรคโคเม (Komeito) ที่ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ทาคาอิจิ ซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
ยูทากะ มิอุระ นักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคอาวุโสจากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮะ กล่าวว่า "ตลาดได้รับรู้และสะท้อนปัจจัยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยคุณทาคาอิจิไปแล้ว" พร้อมเสริมว่าอาจมีแรงซื้อเข้ามาอีกเมื่อเธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน บรรยากาศการลงทุนยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากความกังวลที่คลี่คลายลงเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ซึ่งออกอากาศเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอีก 100% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เขาเคยขู่ไว้ว่าจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนพ.ย. นั้น เป็นสิ่ง "ที่ไม่ยั่งยืน"
นอกจากนี้ การเจรจาออนไลน์เมื่อวันศุกร์ระหว่าง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กับ เหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งจัดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ยิ่งช่วยกระตุ้นความหวังในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย