ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ (21 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ รวมทั้งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มคลี่คลายลง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 49,675.43 จุด เพิ่มขึ้น 489.93 จุด หรือ +1.00%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,160.24 จุด เพิ่มขึ้น 301.41 จุด หรือ +1.17% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,870.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.86 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.57% และดัชนี ASX/S&P 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.50%
หุ้นบริษัทผลิตแร่หายากของออสเตรเลียพุ่งขึ้น หลังจากนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญในวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อรับมือจีนซึ่งมีอิทธิพลในอุตสาหกรรมแร่หายาก ทั้งนี้ หุ้น Lynas Rare Earths เพิ่มขึ้น 3.8%, หุ้น Iluka Resources พุ่งขึ้นเกือบ 6%, หุ้น Pilbara Minerals ดีดตัวขึ้น 4.7%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลกำไรโดยรวมของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 จะมีการเติบโตที่ 9.3% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ระดับ 8.8%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากจีนเพิ่มเติมนั้น จะไม่มีความยั่งยืน โดยคำกล่าวของทรัมป์ส่งสัญญาณถึงการลดท่าทีอันแข็งกร้าวที่มีต่อจีน ก่อนที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะพบกับเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนในสัปดาห์นี้ และก่อนที่ทรัมป์จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้