ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบสองวันติดต่อกันในวันนี้ (30 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาอาจไม่ยั่งยืน เนื่องจากในอดีตเคยมีการเจรจาที่มีแนวโน้มเป็นบวก แต่สุดท้ายก็กลับล้มเหลว
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 26,282.69 จุด ลดลง 63.45 จุด หรือ -0.24%
หุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี โดยหุ้น Techtronic Industries ร่วงลง 5.0%, Sunny Optical Tech ลดลง 4.8%, Prada Spa ลดลง 4.3%, Trip.com ปรับตัวลง 3.4% และ Henderson Land Development ลบ 2.6%
การพบปะหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ได้เสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงเช้าวันนี้ โดยใช้เวลาประมาณ 90 นาที
ปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า เขาได้ตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงเหลือ 47% จากเดิม 57% รวมทั้งปรับลดภาษีศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลให้กับจีนลงเหลือ 10% จากเดิม 20% โดยมีผลบังคับใช้ในทันที เพื่อแลกกับการที่จีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ รวมทั้งเดินหน้าส่งออกแร่หายาก และกวาดล้างการค้าเฟนทานิลที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการจากฝั่งจีนทำให้นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต่างก็กังวลว่าปัญหาเชิงโครงที่ฝังรากลึกนั้น ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.75%-4.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด แต่กรรมการเฟดแทบไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวอย่างชัดเจนในระหว่างการแถลงข่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในวันข้างหน้า
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนต.ค. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ในวันศุกร์นี้ (31 ต.ค.) เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของจีน