ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด สวนทางการร่วงลงของดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ตลาดขานรับการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 22.23 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 360.56 จุด หรือ 0.76% สู่ระดับ 47,922.56 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลง 0.22% และ 0.87% ตามลำดับ
หุ้นของบริษัท เมตา แพลตฟอร์มส์ และไมโครซอฟท์ คอร์ป ร่วงลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ในวันนี้ ระบุว่า เขาได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการเดินทางเยือนเอเชียในครั้งนี้ รวมทั้งการเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ก็เป็นไปอย่างราบรื่น และมีความคืบหน้าในหลายประเด็น
หุ้นของบริษัทเหมืองแร่หายากพุ่งขึ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากที่จีนตกลงที่จะชะลอการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐเป็นเวลา 1 ปี หลังการเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิง
ทั้งนี้ ราคาหุ้น USA Rare Earth และ MP Materials พุ่งขึ้น 4.5% และ 3.3% ตามลำดับ ขณะที่หุ้น Critical Metals, Energy Fuels และ NioCorp Developments ดีดตัวขึ้นเช่นกัน
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของแอปเปิ้ล อิงค์ และแอมะซอนดอทคอม อิงค์ หลังจากปิดตลาดในวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)