ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (4 พ.ย.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 200 จุดในวันจันทร์ (3 พ.ย.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เนื่องจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลทำให้เฟดขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 52,294.31 จุด ลดลง 117.03 จุด หรือ -0.22%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,148.07 จุด ลดลง 10.29 จุด หรือ -0.04% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,973.46 จุด ลดลง 3.06 จุด หรือ -0.08%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.32% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.36%
อย่างไรก็ดี แม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง แต่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวก ขานรับข่าวบริษัท Amazon ประกาศทำข้อตกลงมูลค่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ กับ OpenAI เพื่อเปิดทางให้บริษัทผู้พัฒนาแชตบอต ChatGPT ดำเนินการและขยายงานด้าน AI บนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ Amazon Web Services ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้น Amazon พุ่งขึ้น 4%
ส่วนหุ้น Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น 2.2% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ชิป Blackwell ซึ่งเป็นชิปที่มีสมรรถนะขั้นสูงสุดของ Nvidia จะถูกสงวนไว้สำหรับบริษัทในสหรัฐฯ เท่านั้น และจะไม่ให้จีน รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ได้ครอบครอง
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ หลังจากเงินเฟ้อออสเตรเลียออกมาสูงกว่าคาดในไตรมาส 3/2568