ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดทำนิวไฮ กลุ่มเฮลท์แคร์หนุนตลาด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 12, 2025 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกทำสถิติสูงสุดในวันอังคาร (11 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังถึงการยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ และประเมินแนวโน้มผลประกอบการที่หลากหลายจากบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 580.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.31 จุด หรือ +1.28%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,156.23 จุด เพิ่มขึ้น 100.72 จุด หรือ +1.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,088.06 จุด เพิ่มขึ้น 128.07 จุด หรือ +0.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,899.60 จุด เพิ่มขึ้น 112.45 จุด หรือ +1.15%

ดัชนี STOXX 600 ปิดบวกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเช่นกัน ส่วนดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าการเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว ขณะที่ดัชนี FTSE MIB ของอิตาลีซึ่งมีสัดส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารสูง แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2544

ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นแรงที่สุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันจันทร์ โดยนักลงทุนคาดว่าการยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะเปิดทางให้มีการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้ง ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติข้อตกลงเพื่อที่จะฟื้นฟูงบประมาณของรัฐบาลและยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้น 2.9% โดยหุ้นของ Novo Nordisk พุ่งขึ้น 6.4% หลังมีรายงานว่านักวิเคราะห์จาก JPMorgan แสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับบริษัท นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า Novo Nordisk ปรับลดราคายาลดน้ำหนัก Wegovy ลงสูงสุดถึง 33% ในอินเดีย ส่วนหุ้น Zealand Pharma พุ่งขึ้น 8.7%

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูปรับตัวขึ้น 2.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.1%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า หลายกลุ่มอุตสาหกรรมในยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าหรูและผู้ผลิตรถยนต์ รายงานผลประกอบการดีกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลประกาศผลกำไรครั้งนี้ยังคงมีความผันผวน และตลาดยุโรปยังคงเผชิญความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาโดยรวมของภูมิภาค

หุ้น Vodafone พุ่งขึ้น 8.3% หลังผลการดำเนินงานในเยอรมนีกลับมาเติบโต ส่งผลให้บริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มกำไร ส่วนหุ้น INWIT ร่วงลง 11.8% หลังจากบริษัทโทรคมนาคมรายนี้ปรับลดคาดการณ์รายได้ปี 2569

ตลาดหุ้นสวิตเซอร์แลนด์แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยหุ้น Richemont และ Swatch Group พุ่งขึ้น 1.9% และ 5.7% ตามลำดับ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า เขากำลังทำงานร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์เพื่อจัดทำข้อตกลงลดอัตราภาษีส่งออกจาก 39%

หุ้น Fraport เพิ่มขึ้น 6.5% หลังผู้ประกอบการสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ย. ตามรายงานของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ