ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งกว่า 400 จุด หลังทำนิวไฮวานนี้

ข่าวต่างประเทศ Friday November 14, 2025 00:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 400 จุด ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 500 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับความหวังสหรัฐใกล้ยุติภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์

ณ เวลา 00.22 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลบ 451.98 จุด หรือ 0.94% สู่ระดับ 47,802.84 จุด

ราคาหุ้นบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ ดิ่งลงกว่า 9% ในวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้น 10% และอยู่ใกล้ระดับ 20 ซึ่งบ่งชี้ถึงความวิตกของนักลงทุน และความผันผวนในตลาด

ตลาดถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า การยุติภาวะชัตดาวน์ จะทำให้สหรัฐเผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะเพิ่มสูงยิ่งขึ้น และสหรัฐอาจเผชิญภาวะชัตดาวน์ครั้งใหม่ในเวลาอีกสองเดือน

ทั้งนี้ การชัตดาวน์ซึ่งกินเวลา 43 วัน ทำสถิติยาวนานที่สุดของสหรัฐได้สิ้นสุดลงในวันนี้ หลังจากที่สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ดี กฎหมายดังกล่าวมีการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานรัฐบาลส่วนใหญ่ในระดับเดิมจนถึงเพียงวันที่ 30 มกราคม 2569 และคาดว่างบประมาณดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีก 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมอยู่ที่ระดับ 38 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ การต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่ยังคงรุนแรง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า การชัตดาวน์จะเกิดขึ้นอีกภายในเวลาเพียงสองเดือน

นักวิเคราะห์มองว่างบประมาณฉบับนี้เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาทางการเมืองเฉพาะหน้าเท่านั้น โดยมีการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานรัฐบาลส่วนใหญ่ในระดับเดิมจนถึงเพียงวันที่ 30 มกราคม 2569 และครอบคลุมเพียง 3 ใน 12 ร่างกฎหมายงบประมาณที่สภาคองเกรสต้องให้การอนุมัติในแต่ละปี

หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในอีก 9 ร่างกฎหมายที่เหลือ รัฐบาลสหรัฐอาจต้องเผชิญกับภาวะชัตดาวน์อีกครั้งในอีกเพียงสองเดือนข้างหน้า

แม้รัฐบาลได้กลับมาเปิดทำการแล้ว แต่ความจริงก็คือ ทั้งสองพรรคยังคงโต้เถียงและโยนความผิดให้แต่ละฝ่าย

ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า "พรรคเดโมแครตทำให้ประเทศนี้ต้องสูญเสียเงินไป 1.5 ล้านล้านดอลลาร์จากพฤติกรรมที่โหดร้ายในการปิดประเทศของพวกเขา และพวกเขาควรต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ"

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวในพิธีลงนามร่างกฎหมายดังกล่าวว่า ผลกระทบทั้งหมดจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ หรืออาจเป็นเดือน กว่าที่จะสามารถประเมินได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ประชาชน และภาคครัวเรือน

ด้านนางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวหาพรรคเดโมแครตเช่นกันว่า ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ต้องตัดสินใจอย่างมืดบอดในช่วงเวลาสำคัญ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจเกี่ยวกับเงินเฟ้อและตลาดแรงงานประจำเดือนตุลาคมอาจไม่สามารถเผยแพร่ได้เลย อันเนื่องจากผลกระทบของการชัตดาวน์

สมาชิกพรรคเดโมแครตบางรายก็แสดงความไม่พอใจต่อร่างงบประมาณฉบับนี้ โดยเฉพาะในประเด็นผลประโยชน์ด้านการประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่พรรคให้ความสำคัญสูงสุด โดยนายจอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากจากพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ให้คำมั่นกับพรรคเดโมแครตเพียงแค่จะมีการลงมติในเรื่องนี้ แต่ไม่รับประกันว่าจะมีการอนุมัติจริง

นายเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกอิสระจากรัฐเวอร์มอนต์ที่ทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครต เรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็นหายนะ โดยกล่าวว่า พรรคเดโมแครตแทบไม่ได้อะไรกลับมา นอกจากสัญลักษณ์ของชัยชนะเพียงเล็กน้อย ขณะที่นายเจบี พริตซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ระบุว่า นี่ไม่ใช่ข้อตกลง แต่เป็นเพียงคำสัญญาเปล่า ๆ

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างใช้ประเด็นความขัดแย้งนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ท่ามกลางการต่อสู้ในเกมอำนาจ ซึ่งเป็นลักษณะซ้ำซากทางการเมืองของสหรัฐ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายพยายามเอาใจฐานเสียงของตนเองก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า ท่ามกลางสังคมที่แตกแยกมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นภัยต่อเสถียรภาพและสวัสดิการสังคมโดยรวม

ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos ระบุว่า 50% ของชาวอเมริกันกล่าวโทษพรรครีพับลิกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการชัตดาวน์ ขณะที่ 47% กล่าวโทษพรรคเดโมแครต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไม่มีฝ่ายใดสามารถชี้อีกฝ่ายว่าเป็น "ผู้ร้าย" ได้อย่างแท้จริง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ