ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (18 พ.ย.) โดยตลาดหุ้นเยอรมนีเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน ท่ามกลางบรรยากาศการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดทั่วโลกจากความกังวลว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีมูลค่าสูงเกินจริง และโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นั้นลดน้อยลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 561.86 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -1.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,967.93 จุด ลดลง 151.09 จุด หรือ -1.86%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,180.53 จุด ลดลง 409.99 จุด หรือ -1.74% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,552.30 จุด ลดลง 123.13 จุด หรือ -1.27%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับต่ำสุดรอบ 1 เดือน และปรับตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
ดัชนีวัดความผันผวนของตลาด พุ่งขึ้น 2.7 จุด แตะ 22.89 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เกิดแรงขายหุ้นธนาคารภูมิภาคของสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า ความผันผวนที่สูงขึ้นหมายถึงความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งตลาด สะท้อนความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าปัญญาประดิษฐ์ (AI), สิ่งที่เฟดอาจทำต่อไป รวมถึงความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และต้นทุนการกู้ยืมระยะยาว พร้อมเสริมว่า ความผันผวนที่สูงขึ้นยิ่งเพิ่มโอกาสที่ตลาดอาจปรับฐานลึกขึ้น
บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกยังคงเปราะบาง โดยนักลงทุนคาดหวังว่า Nvidia จะประกาศผลประกอบการที่โดดเด่นในวันพุธนี้
หุ้นผู้ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับ AI ปรับตัวลง โดยหุ้น Siemens Energy ร่วง 6.4% และหุ้น Schneider Electric ร่วง 2.4% ขณะที่หุ้น ABB ร่วง 4.1% หลังบริษัทคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
Nvidia ซึ่งครองความโดดเด่นในตลาดชิป AI กลายเป็นตัวชี้นำสำคัญของกระแสที่ผลักดันหุ้นเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงมีอยู่ว่าการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่ม AI ทำให้หลายภาคส่วนมีมูลค่าสูงเกินจริง
การปรับตัวลงเกิดขึ้นทั่วทั้งตลาด โดยหุ้นกลุ่มธนาคารยุโรป ร่วงลง 2.9% และเป็นแรงกดดันสำคัญต่อดัชนี STOXX
หุ้นกลุ่มยานยนต์ ร่วง 2.9% โดยหุ้น Stellantis ร่วงลง 4.4% หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 2.6% และหุ้นเทคโนโลยีร่วง 1.8%
นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งล่าช้ามานาน ขณะที่ผลสำรวจภาคเอกชนบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอ แต่ถ้อยแถลงเชิงคุมเข้มนโยบายจากเจ้าหน้าที่เฟด ได้ลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Ocado ร่วงลง 17.4% หลังพันธมิตรในสหรัฐฯ อย่าง Kroger ระบุว่าจะปิดคลังสินค้าหุ่นยนต์สามแห่งในเดือนม.ค. ส่งผลกระทบต่อมุมมองการลงทุนใน Ocado อย่างหนัก
หุ้น Umicore ร่วงลง 14.3% หลัง GroepBrussel Lambert ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลงครึ่งหนึ่ง
หุ้น Roche พุ่งขึ้น 6.8% หลังยาน้ำรับประทานแบบทดลองชื่อ giredestrant แสดงผลว่าสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมชนิดที่พบบ่อยกลับมาเกิดซ้ำหลังการผ่าตัดได้