ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุด ส่งสัญญาณการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังดิ่งลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 18.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 196 จุด หรือ 0.43% สู่ระดับ 46,021 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ดิ่งลงเกือบ 400 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง หลังจากพุ่งขึ้นในช่วงแรกขานรับผลประกอบการของบริษัท Nvidia
นอกจากนี้ นักลงทุนไม่มั่นใจต่อภาวะตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ไร้ทิศทาง
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 119,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 53,000 ตำแหน่ง หลังการจ้างงานลดลง 4,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัวที่ระดับ 4.3%
นักวิเคราะห์มองว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวานนี้ ไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ทิศทางขาลงของตลาด แต่เป็นเพียงการพักฐานตามปกติ หลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปีนี้
นายมาร์ก ลุชชีนี หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของบริษัท Janney Montgomery Scott กล่าวว่า "ดูเหมือนว่าการปรับฐานของตลาดหุ้น ซึ่งเริ่มดำเนินมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ยังไม่สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ ขณะที่ตลาดอยู่ในโซนที่มีแรงเทขายมากเกินไป ทำให้ยังคงมีโอกาสดีดตัวขึ้น โดยการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าตลาดจะสามารถดีดตัวขึ้นมากน้อยเพียงใด เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้อาจส่งผลต่อความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด"