ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งนำโดยหุ้น Airbus และหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศกดดันดัชนีหลัก ส่งผลให้การเริ่มต้นเดือนใหม่เป็นไปอย่างระมัดระวังหลังดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 575.27 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,097.00 จุด ลดลง 25.71 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,589.44 จุด ลดลง 247.35 จุด หรือ -1.04% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,702.53 จุด ลดลง 17.98 จุด หรือ -0.18%
ดัชนี STOXX 600 ปิดลดลงหลังจากบวกขึ้นติดต่อกัน 5 เดือนถึงเดือนพ.ย. ขณะที่ตลาดหุ้นสำคัญส่วนใหญ่ของยุโรปก็ปิดในแดนลบเช่นกัน
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.2% โดยถูกกดดันอย่างหนักจากหุ้น Airbus ที่ร่วงลง 5.7% ซึ่งเป็นการดิ่งลงรายวันที่มากที่สุดตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.
Airbus เปิดเผยว่า พบปัญหาคุณภาพการผลิตที่กระทบต่อแผ่นโลหะของเครื่องบินตระกูล A320 จำนวนหนึ่ง โดยแถลงการณ์นี้เกิดขึ้นหลังการเรียกตรวจสอบเครื่องบินในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้น Thales ผู้ผลิตระบบคอมพิวเตอร์การบินสำหรับเครื่องบินที่ได้รับผลกระทบ ร่วงลง 2.2%
หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศร่วงลง 3.2% ขณะที่นักลงทุนทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มนี้ หลังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนจัดการเจรจาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทำข้อตกลงสันติภาพ โดยมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่ามีสัญญาณเชิงบวก แม้ยังมีอุปสรรคต่อการยุติสงครามซึ่งดำเนินมายาวนานเกือบ 4 ปี
หุ้นของบริษัทผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของเยอรมนี ได้แก่ Rheinmetall, Hensoldt และ Renk ร่วงลงระหว่าง 2.2% ถึง 4.7%
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ใช่เพียงเพราะแนวโน้มสงครามรัสเซียยูเครนที่ยังไม่แน่นอน แต่เป็นเพราะนักลงทุนบางส่วนต้องการทำกำไรในหุ้นที่ปรับขึ้นแรงในปีนี้
นักลงทุนยังคงขายทำกำไรในวันจันทร์ ท่ามกลางการขาดปัจจัยใหม่ ๆ ขณะประเมินข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแนวโน้มการใช้จ่ายช่วงวันหยุดหลังวัน Black Friday และ Cyber Monday
ตลาดจับตาสุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงค่ำ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในเดือนนี้
นักวิเคราะห์อีกรายระบุว่า ตลาดคาดการณ์เกือบจะแน่นอนว่า เฟดจะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. แต่คำถามคือ หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร และหากสัญญาณออกมาในเชิงเข้มงวด การรีบาวด์ของตลาดที่เกิดขึ้นสัปดาห์ก่อนอาจหยุดลงได้
ความเชื่อมั่นของตลาดทั่วโลกดีขึ้นในสัปดาห์ก่อน จากความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนธ.ค., ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ที่ลดลง และความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงรัสเซียยูเครน ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดยุโรปฟื้นตัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราในยุโรปพุ่งขึ้น 1.2% โดย Deutsche Bank มองว่ากลุ่มนี้อยู่ในภาวะที่ดีต่อการเติบโตในปี 2569
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Fresnillo ในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 7% จากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ