ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (2 ธ.ค.) ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวังหลังตลาดร่วงลงในวันจันทร์ ขณะที่หุ้น Bayer พุ่งขึ้นอย่างมาก หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนมาตรการจำกัดคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับสารกำจัดวัชพืช Roundup ของบริษัท
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 575.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.07%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,074.61 จุด ลดลง 22.39 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,710.86 จุด เพิ่มขึ้น 121.42 จุด หรือ +0.51% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,701.80 จุด ลดลง 0.73 จุด หรือ -0.01%
หุ้น Bayer พุ่งขึ้นมากกว่า 12% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ พิจารณาคำขอของบริษัทในการจำกัดคดีฟ้องร้องหลายพันคดีที่อ้างว่า Roundup ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
หุ้นดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์เพิ่มขึ้น 0.2% และชดเชยการร่วงลงของหุ้น Novo Nordisk ผู้ผลิตยา Wegovy ที่ร่วงลง 2.3%
หุ้นกลุ่มธนาคารบวกติดต่อกันเป็นวันที่เจ็ด โดยพุ่งขึ้น 1.1% โดยหุ้น Banco Santander เพิ่มขึ้น 1.4% หลังจากขายหุ้น 3.5% ในบริษัทย่อย Santander Bank Polska ซึ่งราคาหุ้นร่วงลง 5.8%
หุ้น Erste Group พุ่งขึ้น 3.7% หลัง Barclays ปรับคำแนะนำลงทุนในธนาคารในเวียนนาเป็น overweight จาก equal-weight โดยระบุถึงแนวโน้มการเติบโตเชิงบวกในยุโรปกลางและตะวันออก
หุ้นบริษัทอาวุธกลับมาน่าสนใจ โดยหุ้น Rheinmetall และหุ้น Hensoldt พุ่งขึ้นเกือบ 3% โดยฟื้นตัวจากการร่วงลงในวันจันทร์
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน พบกับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และจาเรด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์ที่ทำเนียบเครมลินเพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการยุติสงครามในยูเครน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจใหม่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะลดความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)