ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันนี้ (3 ธ.ค.) โดยมีแรงซื้อหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มชิปและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาพยุงตลาด สอดรับกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดีดตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 49,864.68 จุด เพิ่มขึ้น 561.23 จุด หรือ +1.14%
หุ้นบวกนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก และกลุ่มบริการ ขณะที่หุ้นลบได้แก่ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มค้าปลีก
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน พุ่งแตะระดับ 1.890% ในช่วงสั้น ๆ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551 สาเหตุหลักมาจากการเก็งว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ส่งสัญญาณเมื่อวันจันทร์ (1 ธ.ค.) ถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
บรรยากาศการลงทุนยังสดใสขึ้นจากการคาดการณ์ว่านโยบายการเงินของเฟดจะผ่อนคลายลงอีก ภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุว่าจะประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่เร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีรายงานว่า เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวผู้สนับสนุนการลดดอกเบี้ย เป็นตัวเต็งในตำแหน่งนี้
ฟูมิกะ ชิมิสึ นักกลยุทธ์ฝ่ายเนื้อหาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์โนมูระระบุว่า ตลาดกำลังจับตาข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ที่จะเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟด หากตัวเลขสร้างความมั่นใจเรื่องการลดดอกเบี้ย ก็อาจหนุนให้หุ้นกลุ่มไฮเทคปรับตัวขึ้นต่อได้
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญแรงเทขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้า ส่งผลกดดันตลาด แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรของกลุ่มธนาคารก็ตาม