ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของปรากฏการณ์ "ซานต้า แรลลี่"
ณ เวลา 22.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 166.20 จุด หรือ 0.34% สู่ระดับ 48,608.61 จุด
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันนี้ ก่อนปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันคริสต์มาส
นักลงทุนจับตาปรากฏการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ซึ่งมักผลักดันให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในเดือนธันวาคม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงช่วงหลังปีใหม่
ทั้งนี้ ซานต้า แรลลี่จะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมถึง 2 วันแรกของปีใหม่ ซึ่งในรอบนี้จะตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 โดยนับตั้งแต่ปี 2493 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วง 7 วันทำการดังกล่าว
นายอดัม เทิร์นควิสต์ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านเทคนิคของ LPL Financial ระบุว่า ดัชนี S&P 500 มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 78% ในช่วงซานต้า แรลลี่ ขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยตามปกติของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในช่วงเวลา 7 วันอยู่ที่เพียง 0.3% และมีอัตราการเป็นบวก 58%
'โมเมนตัมของตลาดที่ต่อเนื่องเข้าสู่ช่วงปลายปี บ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดซานต้า แรลลี่ ซึ่งในทางประวัติศาสตร์ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเดือนมกราคมและตลอดทั้งปีถัดไป หากดัชนี S&P 500 สามารถปิดเหนือจุดสูงสุดของเดือนธันวาคม ก็อาจปูทางไปสู่การปรับตัวขึ้นระลอกถัดไปเหนือระดับ 7,000 จุด' นายเทิร์นควิสต์ระบุในรายงานถึงลูกค้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 232,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 750 ราย สู่ระดับ 216,750 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 38,000 ราย สู่ระดับ 1.92 ล้านราย