ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 41.10 จุด เหตุวิตกผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 23, 2014 06:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย เพื่อประเมินท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเดินหน้าปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปหรือไม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,373.34 จุด ลดลง 41.10 จุด หรือ -0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,243.00 จุด เพิ่มขึ้น 17.24 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,844.86 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด หรือ +0.06%

ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยหุ้น Coach แบรนด์กระเป๋าสุดหรูของสหรัฐ ดิ่งลง 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ธ.ค.ที่ระดับ 1.42 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.48 พันล้านดอลลาร์

หุ้นไอบีเอ็มร่วง 3.3% หลังรายได้ของบริษัทลดลงแตะระดับ 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นโมโตโรลา โซลูชันส์ ดิ่งลง 3.9% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการรายไตรมาสจะลดลง 4-6% ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 2%

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นบางตัว รวมถึงหุ้นนอร์ฟอล์ค เซาเทิร์น พุ่งขึ้น 4.8% ขณะที่หุ้นแบล็คเบอร์รี่ พุ่งขึ้น 8.6%

นักลงทุนจับตาดูจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ตลาดการเงินจับตาดูข้อมูลด้านแรงงานอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นปัจจัยชี้นำว่าเฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกหรือไม่ หลังจากที่การประชุมเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เฟดมีมติปรับลดขนาด QE ด้วยการลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

ทั้งนี้ การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ และจะเป็นการประชุมวาระสุดท้ายสำหรับนายเบน เบอร์นันเก้ ในฐานะประธานเฟด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ