ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 67.43 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 12, 2014 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนของยูเครน นอกจากนี้ ความผันผวนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย ยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซาด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,351.25 จุด ลดลง 67.43 จุด หรือ -0.41% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,307.19 จุด ลดลง 27.26 จุด หรือ -0.63% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,867.63 จุด ลดลง 9.54 จุด หรือ -0.51%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน หลังจากรัฐสภาของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียมีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน ซึ่งระบุว่าไครเมียจะกลายเป็นเอกราช หากชาวไครเมียประมาณ 2 ล้านคนลงคะแนนสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการทำประชามติวันอาทิตย์นี้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัสเซียยังคงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อสถานการณ์ไครเมีย ขณะที่นายอาร์เซน อาวาคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน เปิดเผยว่า ยูเครนได้ทดสอบความพร้อมของกองทัพในการสู้รบ และอาจมีการเคลื่อนกำลังพลราว 20,000 คนไปประจำอยู่บริเวณชายแดน ซึ่งความพยายามในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นนับตั้งแต่ที่รัสเซียได้พยายามช่วงชิงอำนาจการปกครองในเขตไครเมียจากยูเครน หลังจากที่นายวิคเตอร์ ยานูโควิช อดีตผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียถูกขับไล่ออกไปในเดือนก่อนหน้า

ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะมีการลงประชามติซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ท่ามกลางการคัดค้านอย่างหนักจากทั้งในและนอกประเทศ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจค้าส่งของสหรัฐยังคงเดินหน้าปรับเพิ่มสต็อกสินค้าในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆยังคงคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่เผชิญกับการชะลอตัวในช่วงฤดูหนาว

ขณะที่สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวลดลง 2.7 มาอยู่ที่ระดับ 91.4 ในเดือนก.พ. เนื่องจากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้

ทั้งนี้ บริษัทขนาดเล็กคือบริษัทที่มีลูกจ้างไม่ถึง 50 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 99% ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐ โดยนับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการจ้างงานถึงครึ่งหนึ่งของแรงงานในประเทศ

หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ร่วงลง 2.1% ขณะที่หุ้นดูปองท์ ปรับตัวลง 2%

ส่วนหุ้นบริษัทพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.6% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวลง 1.2% และหุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส ร่วงลง 3.3%

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง นำโดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 2.1% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 1.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ