ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,569.28 จุด เพิ่มขึ้น 75.91 จุด หรือ +0.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,383.89 จุด เพิ่มขึ้น 31.25 จุด หรือ +0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,938.99 จุด เพิ่มขึ้น 13.84 จุด หรือ +0.72%
นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่งยังช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ หุ้นเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ของนายวอเรนน์ บัฟเฟตต์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ธุรกิจต่างๆที่เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ถือหุ้นอยู่ รวมถึงบริษัท Geico ซึ่งเป็นบริษัทประกัน และ BNSF ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมสร้างถนนนั้น มีผลการดำเนินงานที่ดีเกินคาด
หุ้นไมเคิล คอร์ส์ โฮลดิงส์ ร่วงลง 5.9% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 43.4%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นอานาดาร์โค พุ่งขึ้น 4.8% และหุ้นโนเบิล เอนเนอร์จี ปรับตัวขึ้น 5.2%
หุ้นกรุ๊ปปอง อิงค์ พุ่งขึ้น 8.7% ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยรายงานผลประกอบกาไตรมาส 2 ในวันพรุ่งนี้
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ พุ่งขึ้น 2.2% โดยทางบริษัทจะเปิดเผยรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐบาลโปรตุเกสจะเทคโอเวอร์กิจการธนาคารบังโค เอสปิริโต ซานโต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ในวงเงิน 4.9 พันล้านยูโร ตามแผนการกอบกู้วิกฤตภาคธนาคาร นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยในเวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค. จากนั้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. และดัชนีภาคบริการเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)