ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุวิตกสหรัฐออกกฎคุมเข้มภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 24, 2014 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) โดยดัชนี Stoxx 600 ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 11 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการคุมเข้มกฎระเบียบใหม่ด้านภาษีของสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อการเทคโอเวอร์กิจการของภาคเอกชนในยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนี PMI ทั้งภาคบริการและภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวช้าลง

ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.4% ปิดที่ 341.89 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,595.03 จุด ร่วงลง 154.51 จุด หรือ -1.58% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,359.35 จุด ลดลง 83.20 จุด หรือ -1.87% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,676.08 จุด ลดลง 97.55 จุด หรือ -1.44%

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.ย.ปรับตัวลงที่ 52.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จาก 52.5 ในเดือนส.ค.

สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ย.ขยับลงที่ 50.5 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 52.8 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 53.1 ในเดือนส.ค.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกกฎระเบียบใหม่เพื่อจัดการกับการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำข้อตกลงเทคโอเวอร์กิจการของบริษัทในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท AbbVie Inc. ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐที่บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทไชร์ในกรุงดับลิน โดย AbbVie Inc. มีแผนจะย้ายที่อยู่ตามกฎหมายไปยังต่างประเทศเพื่อลดภาระด้านภาษีของบริษัท

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์รายใหญ่ของยุโรปร่วงลงอย่างหนัก รวมถึงหุ้นแอสทราเซเนก้า ดิ่งลง 3.6% หุ้นไชร์ ร่วงลง 2.5% ส่วนหุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ร่วงลง 2.8%

ส่วนหุ้นเทสโก้ ปรับตัวลง 4.2% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2557


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ