ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.4% ปิดที่ 341.89 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ปีนี้
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,595.03 จุด ร่วงลง 154.51 จุด หรือ -1.58% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,359.35 จุด ลดลง 83.20 จุด หรือ -1.87% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,676.08 จุด ลดลง 97.55 จุด หรือ -1.44%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.ย.ปรับตัวลงที่ 52.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จาก 52.5 ในเดือนส.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ย.ขยับลงที่ 50.5 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 52.8 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 53.1 ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกกฎระเบียบใหม่เพื่อจัดการกับการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำข้อตกลงเทคโอเวอร์กิจการของบริษัทในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท AbbVie Inc. ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐที่บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทไชร์ในกรุงดับลิน โดย AbbVie Inc. มีแผนจะย้ายที่อยู่ตามกฎหมายไปยังต่างประเทศเพื่อลดภาระด้านภาษีของบริษัท
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์รายใหญ่ของยุโรปร่วงลงอย่างหนัก รวมถึงหุ้นแอสทราเซเนก้า ดิ่งลง 3.6% หุ้นไชร์ ร่วงลง 2.5% ส่วนหุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ร่วงลง 2.8%
ส่วนหุ้นเทสโก้ ปรับตัวลง 4.2% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2557