หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 0.4% แตะที่ 16,734 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.6% ที่ระดับ 1,953 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.6% ที่ระดับ 4,457 จุด ณ เวลา 22.18 น. ตามเวลาประเทศไทย
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงหลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การเร่งผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งรวมถึง บราซิลและอาร์เซอร์ไบจัน จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกมีปริมาณที่สูงเกินไปในปี 2558
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า สหรัฐมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบในอัตราที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษในขณะที่ปริมาณการผลิตในรัสเซียเพิ่มขึ้นเกือบเท่ากับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสมัยที่ยังคงเป็นอดีตสภาพโซเวียต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลการสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวในระดับที่ชะลอตัวลงในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยแตะที่รับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
รายงานของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการในเบื้องต้นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 57.3 ในเดือนต.ค. จากระดับ 58.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวลงในเดือนส.ค.
รายงารนของ NAR ระบุว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. แตะที่ระดับ 105
โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 100 บ่งชี้ถึงการขยายตัว
ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนที่รายงาน
หุ้นนิวฟิลด์ เอ็กซ์โปเรชั่น โค ซึ่งทำการสำรวจแหล่งน้ำมันให้กับบริษัทร็อคกี เมาเทนส์ ปรับตัวลดลง 8.3% ทำสถิติปรับตัวลดลงสูงที่สุดในบรรดาหุ้นที่ซื้อขายในดัชนี S&P 500หุ้นเนบอร์ส อินดัสตรีส์ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาขุดเจาะน้ำมันลดลง 6.9%
หุ้นเมิร์ค แอนด์ โค ผู้ผลิตยารายใหญ่อันดับสองของสหรัฐลดลง 1.3% หลังบริษัทได้ปรับลดช่วงคาดการณ์รายได้สำหรับตลอดทั้งปีลง