ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 31.44 จุด หลังเฟดประกาศยุติ QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 30, 2014 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเฟดที่ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกเป็นเวลานานขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,974.31 จุด ลดลง 31.44 จุด หรือ -0.18% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,549.23 จุด ลดลง 15.06 จุด หรือ -0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,982.30 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.14%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของเฟดประกาศยุติโครงการ QE ที่ดำเนินการมาเป็นเวลา 6 ปี เนื่องจากเฟดเล็งเห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินที่รุนแรง

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีหลักๆได้ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเท่านั้น เพราะบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) เอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% ต่อไปอีกเป็นเวลานานขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2558

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 6.08% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และผลกำไรไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่เตือนว่าค่าใช้จ่ายของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในปีหน้าเนื่องจากมีการจ้างงานและลงทุนในโปรเจคท์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น

บริษัทวีซาได้เปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการ โดยระบุว่า รายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 2.18 ดอลลาร์ และผลประกอบการอยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด และช่วยหนุนราคาหุ้นวีซาพุ่งขึ้นในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก

รายงานระบุว่า 57% ของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 แล้ว โดย 75.3% ของบริษัทเหล่านี้มีรายได้ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และ 59.1% มีผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์

นักลงทุนจับตาดูสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของจีดีพีในช่วงไตรมาส 3/2557 ในคืนนี้ตามเวลาไทย และในวันเดียวกันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ