ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 19.46 จุด ขานรับอัตราว่างงานต่ำสุดใน 6 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 8, 2014 08:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) หลังจากที่สหรัฐเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค.แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 อย่างไรก็ตามภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกและดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันก็ตาม แต่ดัชนี NASDAQ ปิดปรับตัวลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,573.93 จุด เพิ่มขึ้น 19.46 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,632.53 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,031.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด หรือ +0.03%

ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวอย่างผันผวน เนื่องจากเทรดเดอร์บางส่วนเริ่มกังวลว่าตลาดได้รับแรงซื้อที่สูงเกินไป ในขณะที่ยังมีกระแสความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศที่ชะลอตัวลง

อย่างไรก็ดี ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ต่างทำสถิติระดับปิดสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 214,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนต.ค.ร่วงลง 0.1% จากระดับเดือนก.ย. มาอยู่ที่ 5.8% ซึ่งอัตราว่างงานดังกล่าวร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าววานนี้ว่า "เมื่อประเมินจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าและไม่มั่นคงเป็นธรรมดา นโยบายสนับสนุนจึงยังมีความจำเป็น" โดยเธอไม่ได้เปิดเผยว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด

ประธานเฟดกล่าวว่า การปรับนโยบายสู่สภาพปกตินั้น "อาจก่อให้เกิดความผันผวนทางการเงินที่สูงขึ้น" แต่เฟดจะพยายามสื่อสารยุทธศาสตร์นโยบายการเงินให้ชัดเจนและทะลุปรุโปร่งเพื่อลดความตกใจ ซึ่งหากเกิดขึ้นอาจจะทำให้ตลาดการเงินชะงักทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของนางเยลเลนมีขึ้น หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-backed Securities : ABS) ในเร็วๆนี้ ภายใต้โครงการซึ่งจะดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสองปี โดยการซื้อสินทรัพย์ และการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (Targeted LTRO) จะส่งผลอย่างมากต่องบดุลของอีซีบี

หุ้นดิสนีย์ร่วง 2.2% หลังบริษัทเปิดเผยว่า รายได้จากการทำสถานีโทรทัศน์ ซึ่งเป็นแผนกใหญ่ที่สุดของบริษัทปรับตัวลง หุ้นซาลิกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทเภสัชกรรม ร่วง 34% หลังเจ้าหน้าที่การเงินสูงสุดของบริษัทลาออก หุ้นเฟิร์สต โซลาร์ ร่วง 11% หลังบริษัททำกำไรลดลงในไตรมาส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ