(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 315.51 จุด เหตุน้ำมันร่วงจุดกระแสวิตกศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 15, 2014 06:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้จุดกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 315.51 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 17,280.83 จุด ดัชนี S&P 500 ลบ 33.00 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 2,002.33 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 54.57 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 4,653.60 จุด

สำหรับตลอดสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 3.8% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 และดัชนี S&P ร่วง 3.5% หนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2555 หรือในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ดัชนี Nasdaq ลดลง 2.7% ในรอบสัปดาห์

หุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงจนฉุดไม่อยู่ โดยสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนม.ค. ลดลงต่ำกว่า 58 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันศุกร์ หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี ราคาได้ลดลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552

การปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันได้จุดกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งถูกตอกย้ำด้วยรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนธ.ค.ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่เผยแพร่วานนี้ โดย IEA ได้ปรับลดแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2558 ลงอีก 230,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 900,000 บาร์เรล/วัน จากการคาดการณ์ว่าการบริโภคเชื้อเพลิงจะลดต่ำลงในรัสเซีย และประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอื่นๆ

การขยายตัวในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ กำลังชะลอตัวลง นอกจากนี้ IEA ชี้ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะสร้างความเสี่ยงต่อยุโรปและญี่ปุ่น เนื่องจากทั้งยุโรปและญี่ปุ่นต่างเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อต่ำที่ต่ำมากอยู่แล้ว

ความวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะลุกลามมาถึงสหรัฐ ได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้น เพื่อไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น พันธบัตร

รายงานของ IEA มีขึ้นหลังจากที่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในปีหน้าเช่นกัน

ทั้งนี้ แม้ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ยังช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงานของสหรัฐด้วย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาสดใส ไม่สามารถช่วยหนุนให้ตลาดปิดแดนบวกได้ในวันศุกร์ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.ของทอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน แตะที่ 93.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี และดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด

ขณะที่กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. นำโดยการปรับตัวลงของราคาพลังงาน

นอกจากการร่วงลงของราคาน้ำมันแล้ว ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 7.2% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพ.ย. ลดลงจากที่เพิ่มขึ้น 7.7% ในเดือนต.ค. และ 8% ในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ