สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 252.78 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 23,857.82 จุด หลังเคลื่อนไหวระหว่าง 23,635.6 - 23,867.46
มีมูลค่าการซื้อขายรวม 7.272 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 9.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบกับระดับ 4.394 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงในการซื้อขายวันก่อน
หุ้นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่พุ่งขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าทางการจีนจะประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงแตะ 50.1 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง จากระดับ 50.3 ในเดือนพ.ย.
ตลาดคาดการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนจะสร้างแรงกดดันให้กับทางการจีนในการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ในบรรดาดัชนีหุ้น 4 กลุ่มย่อยนั้น หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด 2.06% ตามมาด้วยกลุ่มการเงิน 1.4% และกลุ่มพาณิชย์และอุตสาหกรรม 0.53% ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 0.29%
บริษัทพัฒนาอสังหาฯของจีนเป็นแกนนำหุ้นบวก โดยหุ้นไชน่า โอเวอร์ซีส์ แลนด์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์ ทะยาน 8.46% ไชน่า รีซอร์สเซส แลนด์ พุ่ง 7.09%
หุ้นบริษัทการเงินของจีนปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน นำโดยไชน่า ผิงอัน อินชัวรันซ์ พุ่ง 5.06% แบงก์ ออฟ คอนสตรักชั่น เพิ่มขึ้น 2.04% และหุ้นอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด เพิ่มขึ้น 1.94%