ดาวโจนส์ร้อนแรงพังแนว 18,000 ครั้งแรกในปีนี้ ตามตลาดหุ้นโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 13, 2015 22:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นทะลุระดับ 18,000 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของปีนี้ ตามการทะยานขึ้นของตลาดทั่วโลก จากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการขยายตัวสูงเกินคาด, การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน และการคาดหวังที่ว่ากรีซและประเทศเจ้าหนี้จะสามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤติหนี้

ณ เวลา 22.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 18,004.97 จุด เพิ่มขึ้น 32.72 จุด หรือ 0.18%

ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี จากข่าวดีทั้งเรื่องของเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการขยายตัว, การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน และการคาดหวังที่ว่ากรีซและประเทศเจ้าหนี้จะสามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤติหนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.5% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 ขณะที่ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมันบวก 0.6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 11,000 จุด

ตลาดหุ้นกรีซพุ่งขึ้นในวันนี้ จากการที่นักลงทุนคาดหวังว่ากรีซและยูโรโซนจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤติหนี้ของกรีซ

ทั้งนี้ ดัชนี ATG ตลาดหุ้นเอเธนส์พุ่งขึ้นเกือบ 5% ในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นนำตลาด

นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า การประชุมระหว่างรมว.คลังกรีซและยูโรโซนในวันจันทร์หน้า ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถประนีประนอมกันได้ หลังจากผู้นำยุโรปแสดงท่าทีผ่อนปรนในการประชุมสุดยอดเมื่อวานนี้

นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าการเจรจาระหว่างกรีซและประเทศเจ้าหนี้จะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ และจะประสบความสำเร็จเพื่อเยียวยาผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัด และเพื่อนำพาให้ยุโรปกลับสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ

กรีซและกลุ่มทรอยก้า ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของกรีซ ได้เริ่มต้นเจรจากันในวันนี้เกี่ยวกับการปฏิรูปที่กรีซจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากนานาประเทศต่อไป

ทั้งนี้ สหภาพยุโรป (EU) เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้หลักของกรีซ โดยกลุ่มทรอยก้า ประกอบด้วย EU, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

การเจรจาในวันนี้ ส่งผลให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า การประชุมอีกครั้งระหว่างรมว.คลังของกรีซและยูโรโซนในวันจันทร์หน้า จะบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเงินของกรีซ หลังจากผู้นำยุโรปแสดงท่าทีผ่อนปรนในการประชุมสุดยอดเมื่อวานนี้ ก่อนที่ข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.2% หลังจากที่เติบโต 0.2% ในไตรมาส 3

หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.9% หลังจากเติบโต 0.8% ในไตรมาส 3

สำหรับปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตัวเลขจีดีพียูโรโซนปรับตัวขึ้นนั้นเป็นเพราะการขยายตัวแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานในวันนี้ว่า จีดีพีเบื้องต้นของเยอรมนีในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 0.7% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในช่วงไตรมาส 3

การขยายตัวของเยอรมนีช่วยชดเชยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศชั้นนำอื่นๆในภูมิภาค โดยเศรษฐกิจฝรั่งเศสขยายตัวเพียง 0.1% จากไตรมาส 3 ซึ่งส่งผลให้ประเทศเข้าใกล้ภาวะชะงักงันยิ่งขึ้นอีก ด้านอิตาลีเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักกว่า ด้วยตัวเลขจีดีพีที่หยุดนิ่งในไตรมาส 4 ส่งผลให้เป็นไตรมาสที่ 14 ติดต่อกันแล้วที่เศรษฐกิจอิตาลีไม่ขยายตัว

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF เปิดเผยวานนี้ว่า ยูเครนจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากหลายแหล่ง รวมเป็นจำนวน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงเงินกู้ 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์จาก IMF เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ หลังจากที่รัฐบาลยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการปฏิรูป

ทางด้านธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ธนาคารโลกจะจัดหาเงินช่วยเหลือวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครนในปีนี้

การให้คำมั่นของธนาคารโลกในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุม 4 ฝ่ายเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครนว่า ที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจาสันติภาพแล้ว โดยการหยุดยิงจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.

ธนาคารโลกระบุว่า การจัดการเงินช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสนับสนุนจากประชาคมโลก และธนาคารโลกจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ IMF ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลยูเครนในการจัดหาเงินกู้งวดใหม่มูลค่า 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ