ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 31.26 จุด รับเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 18, 2015 06:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,935.74 จุด เพิ่มขึ้น 31.26 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,064.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,100.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด หรือ +0.20%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขานรับการส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่า ตลาดการเงินไม่ควรจดจ่ออยู่ที่กระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหรือระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับยืนยันว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟด 15 จาก 17 รายยังคงระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 1 หรือ 2 ครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในการคาดการณ์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% และเฟดได้คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 ที่ 2.4%-2.7% ขณะที่คาดว่าการขยายตัวในปี 2017 จะอยู่ที่ 2.1%-2.5%

หุ้นทริปแอดไวเซอร์ พุ่งขึ้น 15% หลังจากที่บริษัททำข้อตกลงด้านการจองห้องพักร่วมกับแมร์ริออต อินเตอร์เนชันแนล ขณะที่หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ปรับขึ้น 1.2% และหุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทวางแผนซื้อคืนหุ้น

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส และหุ้นอาปาเช คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.3%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมรมว.คลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยหลายฝ่ายมองว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่โครงการให้ความช่วยเหลือกรีซของสหภาพยุโรป (EU) จะสิ้นสุดลงในในเดือนนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงไตรมาส 1/2558, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนมิ.ย.เฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ