ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 204.91 จุด จากแรงขายช่วงท้ายตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 26, 2015 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกจากข่าวธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,666.44 จุด ร่วงลง 204.91 จุด หรือ -1.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,506.49 จุด ลดลง 19.76 จุด หรือ -0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,867.61 จุด ลดลง 25.60 จุด หรือ -1.35%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 300 จุด ขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 4.6% และประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้เทขายหุ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจทั่วโลก

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.2 ในเดือนส.ค. จากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 56.0

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 507,000 ยูนิต ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 510,000 ยูนิต

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลหลังจากสำนักงานงบประมาณประจำสภาคองเกรส (CBO) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2% ลดลงจากระดับ 2.9% ที่คาดการณ์ในเดือนม.ค. หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาสแรกขยายตัวเพียงเล็กน้อย

หุ้นเป๊ปโค โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของสหรัฐ ร่วงลง 16.5% หลังจากคณะกรรมการกำกับดูแลด้านอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐได้ปฏิเสธข้อเสนอการควบรวมกิจการระหว่างเป๊ปโค และเอ็กเซลอน

หุ้นเบสท์ บาย ดีดตัวขึ้น 12.6% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค., การประมาณการจีดีพีช่วงไตรมาส 2/2558 ครั้งที่ 2, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค., ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ