ดาวโจนส์ทะยานกว่า 200 จุด มองมุมบวกจ้างงานพุ่งบ่งชี้เศรษฐกิจแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 4, 2015 22:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่พุ่งขึ้นมากเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008 และจะลดความไม่แน่นอนต่อนโยบายการเงินของเฟด

ณ เวลา 22.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,724.27 จุด พุ่งขึ้น 247.73 จุด หรือ 1.43%

นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เขาสนับสนุนการที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.

"การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้จะช่วยลดความไม่แน่นอนต่อนโยบายการเงิน และทำให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างยั่งยืน พร้อมกับราคาที่มีเสถียรภาพ" เขากล่าว

"ผมอยากเห็นอัตราดอกเบี้ยถูกปรับขึ้นเร็วขึ้นมากกว่าที่จะชะลอเวลาออกไป ซึ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่เนิ่นๆ ก็จะทำให้มีการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอัตราเงินเฟ้อจะกลับไปสุ่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% อย่างราบรื่น"

นายฮาร์เกอร์กล่าวเสริมว่า การชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป จะสร้างความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของเฟด และสร้างความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มในอนาคต

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และธุรกิจเพื่อสุขภาพดีดตัวขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มพลังงานดิ่งลงตามราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ หลังสหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีมติปรับเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 31.5 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวันนี้

ณ เวลา 22.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 2.75% สู่ระดับ 39.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%

ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 197,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 14,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 298,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 271,000 ตำแหน่ง และทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ 145,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 137,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศโอเปกมีมติปรับเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 31.5 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวันนี้

การปรับเพิ่มเพดานการผลิตดังกล่าว ถือเป็นการยอมรับระดับการผลิตที่แท้จริงในขณะนี้ของกลุ่มโอเปกที่สมาชิกพากันเพิ่มการผลิตจนมากกว่าเพดานปัจจุบันที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเพดานการผลิตใหม่ดังกล่าว รวมถึงโควตาการผลิตของอินโดนีเซีย ซึ่งได้กลับมาเข้าร่วมกลุ่มโอเปกหรือไม่

ทั้งนี้ สมาชิกโอเปกต่างก็ไม่ต้องการปรับลดโควตาการผลิตของตน โดยอิรักกำลังต้องการเพิ่มรายได้จากการขายน้ำมัน เพื่อให้งบประมาณมีความสมดุล ขณะที่อิหร่านก็ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด หลังจากที่หดหายไปในช่วงที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ