ดาวโจนส์ดิ่งเหวกว่า 300 จุด หลุด 16,000 กังวลน้ำมันร่วงไม่หยุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 9, 2016 00:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลงกว่า 300 จุด หลุดระดับ 16,000 โดยปรับตัวลงต่อจากวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก และการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน

ณ เวลา 00.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 15,878.40 จุด ดิ่งลง 326.26 จุด หรือ 2.01%

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในวันนี้นับตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงนำตลาด

หุ้นโกลด์แมน แซคส์, โฮม ดีโปท์ และวีซ่า ฉุดตลาดลงสู่แดนลบ

นักลงทุนจับตาราคาน้ำมัน เนื่องจากเป็นปัจจัยชี้วัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ เพื่อหาสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ หลังการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และเวเนซุเอลาไม่ประสบผลเป็นรูปธรรมในการจัดการประชุมเพื่อกระตุ้นราคาในตลาด

ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 77 เซนต์ หรือ 2.49% สู่ระดับ 30.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ

นายอาลี อัล ไนมิ รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบีย ได้หารือกับนายอูโลจิโอ เดล ปิโน รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันและเหมืองแร่ของเวเนซุเอล่าเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การประชุมดังกล่าวไม่ได้ทำให้มีการประกาศแผนการลดปริมาณการผลิตน้ำมันตามที่เวเนซุเอล่าได้เรียกร้อง เพื่อประคองราคาน้ำมันดิบ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.3% เมื่อวันศุกร์ หลังจากตลาดประเมินว่าข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐแสดงให้เห็นถึงภาพรวมที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ ท่ามกลางราคาน้ำมันที่อ่อนแรง

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. จากระดับ 262,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008 ขณะที่ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.5%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%

นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังมีการเปิดเผยอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 8 ปี และการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง ซึ่งทำให้มีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด

ราคาสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐร่วงลง หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนได้คาดการณ์โอกาส 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีนี้ สูงขึ้นจากเดิมที่ระดับ 20% ก่อนการเปิดเผยรายงาน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนมองว่ามีโอกาสเพียง 12% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

ก่อนหน้านี้ ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยจะปรับขึ้นในปีหน้า เนื่องจากเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับแรงเทขายในตลาดหุ้นที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ