ดาวโจนส์ปรับตัวแคบวันนี้ จับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวในช่วงแคบวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ

ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,909.51 จุด บวก 0.89 จุด หรือ 0.01%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงถ่วงตลาดในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น

หากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ จะเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์

แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ รายงานว่าทางธนาคารมีกำไรร่วงลง 18% ในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่ากำไรสุทธิดิ่งลงสู่ระดับ 2.22 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก หรือ 21 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี การร่วงลงของกำไรดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ขั้นต่ำของตลาด ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรมธนาคารจะมีผลกำไรซบเซาที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน

ขณะเดียวกัน แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่า รายได้ของทางธนาคารร่วงลงสู่ระดับ 1.957 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.030 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้, สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลง 17.5% สู่ระดับ 2.26 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะผันผวนในตลาด และความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาอาหาร, เวชภัณฑ์ และที่อยู่อาศัย ถึงแม้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น

ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนก.พ.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายปี

การเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดของดัชนี CPI บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงมีท่าทีระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งใหม่ลดลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 253,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 58 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973