ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) จากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ได้รับแรงกดดันจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 10.89 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 6,114.81 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดอนได้รับแรงกกดดันจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากสำนักงานศุลกากรของจีนรายงานว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 5.7% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเดือนเม.ย. ทั้งสิ้น 2.98 แสนล้านหยวน (4.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค. ที่ระดับ 1.946 แสนล้านหยวน
การขยายตัวของการส่งออกเดือนเม.ย. นั้นต่ำกว่าระดับ 18.7% ของเดือนมี.ค. ขณะที่การนำเข้าลดลงในอัตราเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ 1.7% ของเดือนมี.ค.
มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนเดือนเม.ย.ขยับลง 0.3% เทียบรายปี สู่ระดับ 1.95 ล้านล้านหยวน ขณะที่มูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 4.4% อยู่ที่ 7.17 ล้านล้านหยวน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 14% หุ้นเกลคอร์ ดิ่งลง 9% หุ้นริโอทินโต ร่วงลง 7.9%
หุ้นอีซีเจ็ทดีดตัวขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทอาร์บีซี แคปิตอล แนะนำให้ซื้อหุ้นของบริษัท ในขณะที่หุ้น G4S เพิ่มขึ้น 4.8% หลังเปิดเผยว่า บริษัทเปิดเผยรายได้รายไตรมาสที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น