ตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังคงปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Emerging Markets อ่อนแรงลงติดต่อกัน 7 วันทำการ อันเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินต่างๆ, ข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
ดัชนี MSCI Emerging Markets ปรับตัวลง 0.6% สู่ระดับ 800.91 จุด นับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,822.33 จุด ลดลง 9.78 จุด หรือ -0.35%
สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 5.7% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเดือนเม.ย. ทั้งสิ้น 2.98 แสนล้านหยวน (4.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค. ที่ระดับ 1.946 แสนล้านหยวน
การขยายตัวของการส่งออกเดือนเม.ย. นั้นต่ำกว่าระดับ 18.7% ของเดือนมี.ค. ขณะที่การนำเข้าลดลงในอัตราเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ 1.7% ของเดือนมี.ค.
โทนี่ ฮานน์ ผู้เชี่ยวชาญจาก Blackfriars Asset Management ในลอนดอน ให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐยังคงมีทิศทางที่ไม่แน่นอน เราก็ต่างอยู่ในภาวะที่ต้องขึ้นอยู่ภับนโยบายการเงิน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา