ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงในวันนี้ และบ่งชี้ว่าตลาดวอลล์สตรีทจะอ่อนตัวลงในคืนนี้ หลังการเปิดเผยรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ณ เวลา 20.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 51 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 17,428 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 เม.ย.เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
"กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเป็นตรงกันว่า หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีขึ้นในไตรมาส 2 รวมทั้งตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และเงินเฟ้อเริ่มเคลื่อนไหวใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% การปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ในการประชุมเดือนมิ.ย.ก็ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม" รายงานการประชุมของเฟดระบุ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 47 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ
ณ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2.20% สู่ระดับ 47.16 ดอลลาร์/บาร์เรล