ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 1.58 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 28, 2016 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) หลังจากแถลงการณ์การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนบวก เพราะตลาดได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทแอปเปิล อิงค์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,472.17 จุด ลดลง 1.58 จุด หรือ -0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,139.81 จุด เพิ่มขึ้น 29.76 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,166.58 จุด ลดลง 2.60 จุด หรือ -0.12%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ แต่ เฟดได้เปิดเผยแถลงการณ์ภายหลังการประชุม ซึ่งได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ถ้อยแถลงของเฟดว่า "ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจได้ลดน้อยลง" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ไม่ได้ปรากฎในแถลงการณ์เดือนที่แล้ว และเป็นการเปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นอกจากนี้ เฟดยังได้แสดงมุมมองทางเศรษฐกิจว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ตลาดแรงงานแข็งแกร่งขึ้นในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ปรับตัวอ่อนแอในเดือนพ.ค. ส่วนเงินเฟ้อยังคงซบเซา และจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะใกล้ แต่คาดว่าจะปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนี NASDAQ สามารถปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทแอปเปิล อิงค์

แอปเปิล อิงค์ รายงานผลประกอบการไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. ปีงบการเงิน 2559 เมื่อวานนี้ โดยบริษัทมีรายได้รวม 4.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 4.96 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.8 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของแอปเปิลยังคงดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้หุ้นแอปเปิลปิดตลาดพุ่งขึ้น 6.6% เมื่อคืนนี้

หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และเปิดเผยจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นกว่า 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี

หุ้นโบอิ้งขยับขึ้น 0.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิ 44 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 2/2559 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 93 เซนต์/หุ้น ขณะที่รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับ 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นโคคา-โคล่า ดิ่งลง 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 14.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ หุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นเฮสส์ คอร์ปอเรชัน ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 4%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 111.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 12 เดือน โดยต่ำกว่าระดับสูงสุดของปีนี้ที่ทำไว้ในเดือนเม.ย.

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลงในเดือนมิ.ย. โดยทรุดตัวลง 4.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 หลังจากลดลง 2.8% ในเดือนพ.ค.

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีกิจกรรมการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดแคนซัส ซิตี้ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2559, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 2/2559 และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ