ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยเป็นการปรับฐาน หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์, ดัชนี S&P500 และดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,563.49 จุด ลดลง 73.79 จุด หรือ 0.39% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดิ่งลงนำตลาดวันนี้
นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเยนในขณะนี้
นอกจากนี้ ตลาดจะรอดูรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
เฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2014 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.
การผลิตภาคอุตสาหกรรมได้รับแรงหนุนจากการผลิตรถยนต์, เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการประเมินผลผลิตในภาคการผลิต ภาคสาธารณูปโภค และภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ โดยทั้ง 3 ภาคต่างก็ดีดตัวขึ้นในเดือนก.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย.
ดัชนี CPI ที่ทรงตัวในเดือนก.ค. มีสาเหตุจากราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้เบาบางลง ซึ่งจะลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
การที่ดัชนี CPI ทรงตัวในเดือนก.ค. หรืออยู่ที่ระดับ 0.0% นั้น นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.พ. หลังการปรับตัวขึ้น 0.2% ทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.21 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.18 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.