ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วง บ่งชี้วอลล์สตรีทพักฐานคืนนี้ หลังดีดตัว 7 วันติดต่อกัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 16, 2016 21:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะพักฐานในคืนนี้ หลังจากทำสถิติดีดตัวขึ้น 7 วันติดต่อกันเมื่อวานนี้

ณ เวลา 20.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 54 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 18,826 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 0.29% เมื่อคืนนี้ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเกือบ 6% รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในวันนี้ว่า จะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ถ้าหากเฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

นายบูลลาร์ดระบุว่า เหตุผลเดียวที่จะทำให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ก็คือการที่ตลาดการเงินโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง หรือสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่อย่างมาก

นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงหนึ่งครั้งในการประชุมเดือนหน้า ก็อาจเป็นการเพียงพอแล้วที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดปรับตัวสู่ระดับเป็นกลาง

"การขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนึ่งครั้ง โดยอาจเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. ก็เพียงพอที่จะทำให้นโยบายการเงินกลับสู่ภาวะเป็นกลาง" นายบูลลาร์ดกล่าว

ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงมากขึ้นในปีหน้า หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมกับให้สัญญาว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่ ด้วยการลงทุนในภาคสาธารณูปโภค

นอกจากนี้ นายบูลลาร์ดยังกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐนับตั้งแต่การเลือกตั้งสหรัฐ ถือว่ายังคงอยู่ในกรอบของปีที่แล้ว ขณะที่การคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยคลายความกังวลของเฟดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ต่ำเกินไป

ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสในวันพรุ่งนี้ เพื่อแสดงมุมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ

นอกจากนี้ ในการประชุมระหว่างนางเยลเลนและคณะกรรมาธิการดังกล่าว ยังจะบ่งชี้ท่าทีของพรรครีพับลิกันในความพยายามจำกัดอำนาจของเฟด

ที่ผ่านมา สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสมีความต้องการที่จะควบคุมอำนาจในการกำกับดูแลภาคธนาคารและเศรษฐกิจของเฟด และขณะนี้ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ใกล้จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในต้นปีหน้า พรรครีพับลิกันก็หวังว่าจะมีการออกกฎหมายให้เฟดทำตามนโยบายที่กำหนดขึ้น และต้องชี้แจงต่อสภาคองเกรส หากเฟดเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตาม

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดมองว่าแนวคิดดังกล่าวคุกคามต่อความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินให้ปลอดจากอิทธิพลทางการเมือง

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า นายทรัมป์อาจแทรกแซงการกำกับนโยบายของเฟด ด้วยการแต่งตั้งกรรมการเฟดคนใหม่อีก 2 คนสำหรับตำแหน่งที่ว่างอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ หลังจากที่นางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2018


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ