ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นอุตสาหกรรม หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 59.31 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 24, 2016 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างคึกคัก หลังจากมีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง หลังจากบริษัทฮิวเล็ต แพคการ์ด (HP) รายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,083.18 จุด เพิ่มขึ้น 59.31 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.72 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ +0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,380.68 จุด ลดลง 5.67 จุด หรือ -0.11%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นแคเทอร์พิลลาร์ ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับงานก่อสร้างและเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ผู้ผลิตลิฟท์และเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ปรับตัวขึ้น 1.1% และหุ้นเดียร์ แอนด์ โค ผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับงานก่อสร้างและการเกษตร ทะยานขึ้น 10.9%

ปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นนั้น มาจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2015 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง และส่งผลให้ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดในแดนลบ หลังจาก HP เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสลดลง โดยหุ้น HP ดิ่งลง 7.3% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล อิงค์ ปรับตัวลง 1.1% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.2%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากการที่นักลงทุนบางส่วนเริ่มชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) รวมทั้งแรงกดดันจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 1-2 พ.ย.บ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

ชนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคธุรกิจเดือนพ.ย. จาก Markit


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ