ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงต่อในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการลงนามในคำสั่งระงับการเดินทางเข้าสหรับของพลเมืองจาก 7 ประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 27,867.92 จุด เพิ่มขึ้น 18.36 จุด, +0.07% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,676.71 จุด ลดลง 9.65 จุด -0.57%
ตลาดหุ้นฮ่องกง จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ เวียดนาม ยังคงปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
นักวิเคราะห์มองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ในวันที่ 31 ม.ค. และ 1 ก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี
ลีโอ โกรฮาวสกี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบีเอ็นวาย เมลลอน เวลท์ แมเนจเมนต์ คาดการณ์ว่า มีโอกาสน้อยที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หรือในเดือนมี.ค. แต่เขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และจะปรับขึ้น 2-3 ครั้งในปีนี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 2
ขณะที่ยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการบริโภคภาคเอกชน ได้ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันแล้วเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ปรับตัวลดลง 0.3% จากปีก่อนหน้า แตะ 318,488 เยน (2,800 ดอลลาร์)
อัตราว่างงานของญี่ปุ่นได้ปรับตัวลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 22 ปีเมื่อปี 2559 โดยได้ปรับตัวลดลงแตะระดับเฉลี่ยที่ 3.1% จากปีก่อนหน้าที่ 3.4% ซึ่งส่งสัญญาณในทางที่ดีต่อเป้าหมายในการจัดการกับปัญหาเงินฝืดที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการเงินในวันนี้ ได้แก่ การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงิน และปรับเพิ่มแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาสว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่นจะขยายตัว 1.5% ในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งจะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า นับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากระดับคาดการณ์ของเดือนพ.ย.ที่ 1.3%