ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวแรงในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยในวันนี้ว่า เขาจะประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
ณ เวลา 23.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,157.87 จุด เพิ่มขึ้น 103.53 จุด หรือ 0.52%
การเปิดเผยของปธน.ทรัมป์ดังกล่าวมีขึ้น ในระหว่างการประชุมกับผู้บริหารของสายการบินที่ทำเนียบขาวในวันนี้
"การปรับลดภาระภาษีโดยรวมสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐถือเป็นเรื่องใหญ่ และเราจะทำการประกาศภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะถือเป็นปรากฎการณ์สำหรับการปรับลดภาษี" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมวันนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุถึงการลดกฎระเบียบในภาคธุรกิจของสหรัฐ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับการปฏิรูประบบควบคุมการจราจรทางอากาศ และการปรับปรุงสนามบินที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น แม้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
การลดลงของสต็อกน้ำมันเบนซินบ่งชี้ว่าการบริโภคน้ำมันของสหรัฐอยู่ในระดับสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และจะช่วยพยุงราคา ในขณะที่สต็อกน้ำมันประเภทอื่นๆยังคงอยู่ในระดับสูง
ณ เวลา 21.24 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.22% สู่ระดับ 52.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้
ทั้งนี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้