ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับถ้อยแถลงของนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ที่ระบุว่า เขาจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.
"เราต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาก่อนปิดสมัยประชุมในเดือนส.ค. โดยเรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำในวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราหวังที่จะรวมแผนต่างๆเข้าด้วยกัน" นายมนูชินกล่าว
ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ทะยานขึ้น นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง โดยหวังว่าเขาจะทำการปรับลดภาษี, ลดกฎระเบียบ และทำการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวในการแถลงต่อสภาคองเกรสในวันที่ 28 ก.พ.
ณ เวลา 22.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,818.12 จุด เพิ่มขึ้น 42.52 จุด หรือ 0.20%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นเชฟรอนทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นอย่างมากในวันนี้ หลังจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์เพิ่มขึ้น
ณ เวลา 21.19 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 2.31% สู่ระดับ 54.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
API เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.พ. ลดลง 884,000 บาร์เรล สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์
นักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้เพื่อยืนยันข้อมูลสต็อกน้ำมันของ API
สต็อกน้ำมันสหรัฐที่ลดลงบ่งชี้ว่าภาวะน้ำมันล้นตลาดใกล้ยุติลง หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิต
ในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 244,000 ราย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 103 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.1973