ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 69.03 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง,วิตกเฟดขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 9, 2017 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 5% ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดจากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,855.73 จุด ลดลง 69.03 จุด หรือ -0.33% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,837.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด หรือ +0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,362.98 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือ -0.23%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ โดยปัจจัยล่าสุดมาจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลงกว่า 5% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานล้นตลาด

ทั้งนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป ร่วงลง 1.9% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 1.95% หุ้นมาราธอน ออยล์ ดิ่งลง 8.7% หุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ ร่วงลง 6.7% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ร่วงลง 6.5% และหุ้นชาซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 6.1%

หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมหนัก ร่วงลง 2.8% หลังจากนิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐกำลังตรวจสอบการชำระภาษีของทางบริษัท โดยข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้บุกตรวจค้นสำนักงาน 3 แห่งของแคทเธอร์พิลลาร์ ในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งคาดว่าการบุกค้นครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการหาข้อมูลของบริษัท CSARL ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแคทเธอร์พิลลาร์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐยังได้เพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 298,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง

รายงานของ ADP ยังระบุด้วยว่า ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 193,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 32,000 ตำแหน่ง

เจย์ มอร์ล็อค นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนซึ่งรายงานโดย ADP นั้น สามารถบ่งชี้ทิศทางของตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ได้ในระดับหนึ่ง และการที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์นั้น นับเป็นแรงจูงใจล่าสุดที่จะผลักดันให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย

CME Group FedWatch ระบุว่า ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 91% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

ก่อนหน้านี้ ตลาดประเมินว่ามีความเป็นไปได้ไม่ถึง 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.อาจจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าเดือนม.ค.ที่พุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.พ.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.7% จาก 4.8% ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ