ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่หุ้นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,779.54 จุด เพิ่มขึ้น 210.87 จุด, +0.89% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,720.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.63 จุด +0.15%
ส่วนตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการวันนี้ (13 มี.ค.) เนื่องในเทศกาลเล่นสี
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่ง ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเดือนม.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.5% นอกจากนี้ ดัชนี PPI เดือนก.พ.ยังทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2557
รายงานของ BOJ ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี PPI เดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น มาจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและถ่านหินที่พุ่งขึ้น 27.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 21.9% ในเดือนม.ค. ส่วนราคาเหล็กและเหล็กกล้าปรับตัวขึ้น 4% และราคาเคมีภัณฑ์ดีดตัวขึ้น 0.5%
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชนเดือนม.ค. หดตัวลง 3.2% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 8.379 แสนล้านเยน (7.3 พันล้านดอลลาร์)
ส่วนความเคลื่อนไหวที่นักลงทุนจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มีนาคม และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 16 มีนาคมนี้
นักวิเคราะห์คาดว่า ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 มีนาคมนี้ จะมีมติในการคงอัตราดอกเบี้ยและนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield-curve) ไว้เช่นเดิม
ทั้งนี้ BOJ พยายามผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ด้วยการประกาศใช้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve control) ตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยนโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลเคลื่อนไหวอยู่ที่ 0% ด้วยการปรับปริมาณการซื้อพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนนั้น มักเคลื่อนไหวตรงข้ามกับราคาพันธบัตร