ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน จากการที่นักลงทุนกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประสบความล่าช้าในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเขาเคยให้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 1% ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
ณ เวลา 20.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,644.78 จุด ลดลง 21.32 จุด หรือ 0.11%
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวลงในเดือนมี.ค.เป็นเดือนแรก นับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวสวนตลาด
หุ้นไนกี้ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในการลงมติต่อร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" แทน "โอบามาแคร์" ในวันพรุ่งนี้ โดยกังวลว่าความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" จะส่งผลกระทบทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ เช่น การปฏิรูปภาษี, การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ต้องล่าช้าออกไป
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้น นับตั้งแต่นายทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าเขาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด
นายจูเลียน เอมมานูเอล นักวิเคราะห์ของยูบีเอส เตือนว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลง 10% หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติดิ่งลงวานนี้รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี
"เราคาดว่าตลาดหุ้นจะปรับฐานลง 5-10% ซึ่งเราได้เคยพูดมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว" นายเอมมานูเอลระบุในรายงาน
ทางด้านนายเดนนิส การ์ทแมน บรรณาธิการ และผู้ตีพิมพ์ Gartman Letter ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มดิ่งลงต่อไปอีกอย่างน้อย 5%
"นี่เป็นการเริ่มต้นของการปรับฐานอย่างน้อย 5% หรืออาจจะหนักกว่านี้ เมื่อเวลาผ่านไป" นายการ์ทแมนกล่าว
นายการ์ทแมนกล่าวเสริมว่า ถึงแม้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะมีความแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนจะต้องใช้ความระมัดระวัง
"ในช่วงปลายของภาวะกระทิง ผลประกอบการมักจะดูดี ซึ่งผลประกอบการมักจะไม่ย่ำแย่ จนกว่าคุณจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจในช่วงขาลง" เขากล่าว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ จากการที่นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจำนวนมากในสหรัฐ
ณ เวลา 20.19 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 57 เซนต์ หรือ 1.18% สู่ระดับ 47.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 533.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนรอดูการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในคืนนี้ เพื่อยืนยันตัวเลขของ API